ปฏิรูปเทศสูตรสำเร็จแห่งการบริหารวัดในยุคปัจจุบัน
ตอนที่ ๑ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับปฏิรูปเทศ
โดย อาจารย์พิพัฒน์ภาสน์ บุญเทียน
อาจารย์ประจำสาขาวิชาหลักสูตรและการสอน
ความเป็นมาและความสำคัญ
ปฏิรูปเทศเป็นหลักธรรมที่สำคัญในการบริหารวัดให้เหมาะสมแก่การสร้างและอบรมพุทธบริษัท ให้เป็นคนดีของสังคม ประกอบไปด้วย การบริหารวัดอาวาสเป็นที่สบาย (การปรับปรุงสภาพภูมิศาสตร์ของวัดให้ดี ปลูกต้นไม้ร่มรื่น ดูแลความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย) การบริหารวัดให้อาหารเป็นที่สบาย (การดูแลอาหารการกินของพระสงฆ์และญาติโยมที่มาวัด รวมถึงการจัดระบบการบริหารการเงินให้รัดกุม) การบริหารวัดให้บุคคลเป็นที่สบาย (การคัดเลือก พัฒนาและอบรมบุคลากรในวัดให้มีกิริยามารยาทเรียบร้อยเป็นแบบอย่างแก่ญาติโยมที่มาวัด) และการบริหารวัดให้ธรรมะเป็นที่สบาย (การอบรมสอนประชาชน จัดการศึกษา เผยแผ่คำสั่งสอนและนำหลักธรรมมาปกครองหมู่คณะ)
แม้ในปัจจุบันการบริหารวัดจะยึดภารกิจของวัดตามที่กำหนดเอาไว้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕ แต่การบริหารวัดโดยส่วนใหญ่นั้นยังไม่ประสบความสำเร็จ มีส่วนที่ต้องปรับปรุงอีกมากมาย เช่น การขาดการคัดสรรบุคคลที่จะเข้ามาบวช จัดการเผยแผ่ธรรมะยังขาดความต่อเนื่อง การบริหารวัดให้มีอาคารสถานที่เหมาะสมต่อการศึกษาและปฏิบัติธรรมยังทำได้ไม่ดีนักทำให้วัดขาดความน่าสนใจ ความเชื่องมงายในเรื่องของขลัง วัตถุมงคลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ยังมีอยู่ทั่วไป การดำเนินงานต่างๆ ของวัดส่วนใหญ่ยังขาดการวางแผนในระยะยาว (สุพัฒน์ มนัสไพบูลย์ และคณะ. ๒๕๓๙ : ๖-๙) จากสาเหตุดังกล่าวทำให้วัดเสื่อมลงจากบทบาทเดิมที่เคยเป็นมาแต่อดีตมากยิ่งขึ้น คนไม่ค่อยเข้าวัด ผู้ยึดหลักศีลธรรมในการดำเนินชีวิตลดน้อยลง แต่หากมองปัญหาเหล่านี้ในในมุมกลับแล้วจะพบว่า แท้จริงคนทุกคนอยากเข้าวัด เพียงแต่วัดยังไม่น่าเข้า ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของพระสงฆ์ที่จะต้องเป็นผู้นำในการพัฒนาวัดให้น่าเข้า โดยการปรับปรุงวัดให้มีความเหมาะสมในด้านต่างๆ โดยอาจยึดตามหลักปฏิรูปเทศ ๔ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นหลักธรรมอย่างหนึ่งมาใช้ในการบริหารวัด เพื่อพัฒนาวัดให้เหมาะสมแก่การสร้างคนดี
บทบาทและความสำคัญของวัด
วัด หมายถึง สถานที่ทางศาสนา โดยปรกติมีโบสถ์ วิหาร และที่อยู่ของสงฆ์หรือ
นักบวช (พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒. ๒๕๔๖ : ๑๐๕๙)
วัด หมายถึง ที่อยู่ของพระ (นักบวช) ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ เป็นดินแดนแห่งพระรัตนตรัยสำหรับชุมชน มี ๓ เขต คือ เขตพุทธาวาส เขตธรรมาวาส และเขตสังฆาวาส (พระธรรมวรนายก. ๒๕๔๕ : ๑๖๔)
วัด หมายถึง ศาสนสถานที่ประกอบกิจกรรมของชาวพุทธ เป็นที่อยู่ของบรรพชิต (พระสงฆ์และสามเณร) และฆราวาสที่เกี่ยวข้อง เป็นที่ศึกษาและปฏิบัติธรรม ตลอดจน การเผยแผ่ศาสนธรรมของชาวพุทธ (พลสัณห์ โพธิ์ศรีทอง. ๒๕๓๙ : ๑๙๗)
นับตั้งแต่สมัยโบราณวัดมีความสำคัญยิ่งต่อสังคมไทย ทุกหมู่บ้านมีวัดเป็นศูนย์กลาง มีพระสงฆ์เป็นผู้นำทางจิตใจและสติปัญญา เป็นศูนย์กลางของความเชื่อถือ และความสามัคคี ด้วยเหตุนี้พระสงฆ์จึงมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน พระธรรมวรนายก (๒๕๔๕ : ๑๖๕-๑๖๖) ได้กล่าวถึงวัดในสังคมไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ดังนี้
๑. เป็นสถานที่ประพฤติพรตพรหมจรรย์ของพระภิกษุสามเณรและประชาชนผู้ใคร่ธรรม
๒. เป็นสถานที่สำหรับประชาชนไปบำเพ็ญกุศล
๓. เป็นดินแดนแห่งความสงบ คือเป็นที่อยู่ของผู้สงบ เป็นดินแดนไปมาหาสู่ของผู้รักสงบ
๔. เป็นสาธารณูปการที่ชาวบ้านได้อาศัยใช้สาธารณูปโภค เช่น ตักน้ำกินน้ำใช้ที่สระวัด
๕. เป็นสถานศึกษาเล่าเรียนวิชาความรู้แทบทุกสาขาวิชาตั้งแต่ชั้นต่ำจนถึงชั้นสูง
๖. เป็นสโมสรสถานหรือสมาคมที่ชุมนุมพักผ่อนหย่อนอารมณ์ของประชาชนทั่วไปในบางโอกาส
๗. เป็นสุขศาลา โรงพยาบาลหรือแพทยสถานที่พระบริการชาวบ้าน ผู้ป่วยไข้
๘. เป็นสถานที่พึ่งพำนักของคนไร้ที่พึ่ง เช่น กำพร้า อนาถา หรือประสบไฟไหม้ น้ำท่วม
๙. เป็นที่พึ่งหลบลี้หนีภัยของคนที่ถูกภัยคุกคาม เช่น ภัยสงคราม หรือโรคภัยร้ายแรงคุกคาม
๑๐. เป็นสถานที่พึ่งของผู้ตายและญาติของผู้ตาย
๑๑. เป็นสนามเด็กเล่น หรือเล่นกีฬาของประชาชน
๑๒. เป็นสถานที่พักของผู้เดินทาง เสมือนเป็นโรงแรมของประชาชนคนเดินทาง
๑๓. เป็นสถานที่เปรียบเทียบคดีความเสมือนหนึ่งเป็นโรงศาลวินิจฉัยเรื่องราวแก่ประชาชน
๑๔. เป็นสถานที่พบปะกันแห่งชายหนุ่มหญิงสาวตามประเพณีไทยแท้แต่โบราณ
๑๕. เป็นศูนย์กลางแห่งศิลปวัฒนธรรมของสังคมไทย
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับปฏิรูปเทศ
๑. ความหมายของปฏิรูปเทศ
ปฏิรูปเทศเป็นศัพท์มาจากภาษาบาลี ได้มีผู้ให้ความหมายของปฏิรปเทศเอาไว้ดังต่อไปนี้
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ (๒๕๔๖ : ๑๐๕๙) ได้ให้ความหมายของปฏิรูปเทศไว้ว่า ปฏิรูปเทศ หมายถึง ถิ่นที่เหมาะสม หรือถิ่นที่สมควร
พระธรรมธีรราชมหามุนี (๒๕๔๒ : ๔๑-๔๔) ได้ให้ความหมายของปฏิรูปเทศว่า หมายถึง ประเทศอันสมควร ได้แก่ประเทศที่สมบูรณ์แบบ มีพุทธบริษัท ๔ มีบุญกิริยาวัตถุ ๓ และมีนวังคสัตถุสาสน์ (คำสอนของพระศาสดา ๙ ประการ)
พระภาวนาวิริยคุณ (๒๕๔๔ก : ๔) ได้ให้ความหมายของปฏิรูปเทศ คือ อยู่ในถิ่นที่สมควร ถ้ากล่าวถึงในลักษณะของการทำงานก็คือ เป็นวิธีพัฒนาถิ่นที่อยู่ให้เหมาะสมแก่การสร้างคนดี
ปิ่น มุทุกันต์ (๒๕๓๕ : ๒๔๑-๒๔๒) ได้ให้ความหมายของปฏิรูปเทศไว้ว่า ปฏิรูปะ แปลว่า สมควร เหมาะสม เรียบร้อย รูปเฉพาะ ส่วนเทศะ แปลว่า ถิ่นที่อยู่ หมายถึงตำบลที่อยู่ ประเทศที่อยู่ รวมแล้ว ปฏิรูปเทศ หมายถึง ประเทศมีรูปเฉพาะ ประเทศเสรี มีสัญลักษณ์ศักดิ์ศรีเป็นของตนเอง มีวัฒนธรรมที่ดี
๒. ความสำคัญของปฏิรูปเทศ
พระภาวนาวิริยคุณ (๒๕๔๔ก : ๔) ได้กล่าวถึงความสำคัญของปฏิรูปเทศ ๔ สูตรสำเร็จของการบริหารวัดเอาไว้ว่า คนจะเป็นคนดีได้นั้นต้องคบคนดีเป็นกัลยาณมิตร และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการทำความดี และด้วยหลักการนี้เอง พระภิกษุต้องกลับมาถามตนเองว่าได้ทำหน้าที่อบรมบ่มนิสัยให้คนเป็นคนดีและบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในวัดให้เหมาะสมต่อการทำดีหรือไม่ เพราะถ้าไม่ทำวัดก็จะทรุดโทรมลงเรื่อยๆ และคนดีในสังคมก็จะลดน้อยลง
พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ (๒๕๔๖ : ๓๕) ได้กล่าวถึงความสำคัญของการอยู่ในถิ่นที่เหมาะสมหรือปฏิรูปเทศเอาไว้ว่า ต้นโพธิ์ต้นไทร หากปลูกไว้ในกระถาง ถึงจะไม่ตาย ก็ต้องกลายเป็นไม้แคระแกร็น แต่ถ้านำไปปลูกในที่ดินดี มีบริเวณกว้างขวาง น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ ก็โตวันโตคืน กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ แผ่กิ่งก้านสาขาเต็มที่ เช่นเดียวกับคนเรา หากตกอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เลว ถึงจะมีความรู้ความสามารถ ก็ยากที่จะเอาดีได้ แต่ถ้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมแล้ว ก็สามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าได้โดยง่าย
ปิ่น มุทุกันต์ (๒๕๓๕ : ๒๕๑) ได้กล่าวว่า บ้านเมืองไทยของเราเป็นปฏิรูปเทศมาแต่โบราณกาลแล้ว มีชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์และอิสรภาพ ตลอดจนขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมเป็นของตนเองครบถ้วนสมบูรณ์ ทางที่จะทำให้บ้านเมืองเสียความปฏิรูปเทศมีอยู่ทางเดียวคือการเปลี่ยนแปลงตามกระแสของภายนอก
ดังนั้นสามารถสรุปความสำคัญของปฏิรูปเทศได้ว่า เป็นสถานที่ที่ช่วยพัฒนาบุคคลให้มีความเจริญก้าวหน้า เพราะสถานที่ที่ดีอันประกอบไปด้วยที่อยู่อาศัยที่ดี อาหารที่ดี บุคคลที่ดี และธรรมะที่ดี จะช่วยให้บุคคลได้รับโอกาสในการรับเอาสิ่งที่ดีๆเพื่อพัฒนาจิตใจและนำไปใช้ในการดำรงชีวิตเพื่อเป็นคนดีในสังคม
๓. องค์ประกอบของปฏิรูปเทศ
พระธรรมธีรราชมหามุนี (๒๕๔๒ : ๔๖) ได้จำแนกปฏิรูปเทศออกเป็น ๒ ประการ ได้แก่
๑. ประเทศอันสมควรภายนอก คือ ประเทศที่สมบูรณ์แบบ ประกอบด้วยลักษณะ ๓ ประการ ได้แก่ มีพุทธบริษัท ๔ มีบุญกิริยาวัตถุ ๓ และมีนวังคสัตถุสาสน์ (คำสอนของพระศาสดา ๙ ประการ)
๒. ประเทศอันสมควรภายใน ได้แก่ ร่างกายกับใจของแต่ละบุคคลนั้นเอง
พระภาวนาวิริยคุณ (๒๕๔๔ก : ๔) กล่าวว่า ปฏิรูปเทศ มีอยู่ ๔ ประการ ได้แก่
๑. อาวาสเป็นที่สบาย หมายถึง ที่อยู่ของเรา ทำอาคารสถานที่ต่างๆ ให้ น่าอยู่ให้น่าสบาย
๒. อาหารเป็นที่สบาย หมายถึง การจัดอาหารให้ลงตัว รวมทั้งเรื่องของงบประมาณการเงินที่จะใช้ด้วย
๓. บุคคลเป็นที่สบาย หมายถึง บุคคลทั้งหมดต้องได้รับการอบรมจนกระทั่งอยู่ในเกณฑ์ดี อยู่ในระเบียบวินัย
๔. ธรรมะเป็นที่สบาย หมายถึง การเรียนการศึกษา การสอนและ การเผยแผ่ธรรมะ
พระมหาสมชาย ฐานะวุฑโฒ (๒๕๔๖ : ๓๖-๓๗) กล่าวถึงปฏิรูปเทศว่า มีอยู่ ๔ ประการ ได้แก่
๑. อาวาสเป็นที่สบาย หมายถึง เป็นที่ที่มีสภาพทางภูมิศาสตร์ดี
๒. อาหารเป็นที่สบาย หมายถึง เป็นบริเวณที่สามารถจัดหาอาหารได้สะดวก
๓. บุคคลเป็นที่สบาย หมายถึง บริเวณที่อยู่นั้น คนส่วนใหญ่ในละแวกนั้นเป็นคนดี มีศีลธรรม
๔. ธรรมะเป็นที่สบาย หมายถึง ความดีงาม ความเหมาะสม ใน ๒ ลักษณะคือ
๔.๑ ในทางโลก หมายถึง ในถิ่นนั้นมี สถานศึกษาดี
๔.๒ ในทางธรรม หมายถึง ในถิ่นนั้นมีพระภิกษุ หรือฆราวาสผู้รู้ธรรม เป็นบัณฑิต
บทความเรื่องปฏิรูปเทศสูตรสำเร็จแห่งการบริหารวัดในยุคปัจจุบัน ตอนที่ ๑ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับปฏิรูปเทศ ขอยุติการนำเสมอเพียงเท่านี้ก่อน ในฉบับหน้า พบกับบทความเรื่องปฏิรูปเทศสูตรสำเร็จแห่งการบริหารวัดในยุคปัจจุบัน ตอนที่ ๑ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับปฏิรูปเทศ (ต่อ) จนจบนะครับ
บรรณานุกรม
ปิ่น มุทุกันต์. (๒๕๓๕). มงคลชีวิต ภาค ๑ : ประมวลความก้าวหน้าตามแนว
พุทธศาสนา. กรุงเทพมหานคร : มหามกุฏราชวิทยาลัย.
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒. (๒๕๔๖). กรุงเทพมหานคร :
นานมีบุ๊คส์.
พระธรรมวรนายก. (๒๕๔๖). “การพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์กลางของชุมชน” ใน
ธรรมปริทัศน์ ๔๖. หน้า ๑๖๔-๑๖๖, ๑๖๙. กรุงเทพมหานคร :
โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระธรรมธีรราชมหามุนี. (๒๕๔๒). มงคล ๓๘ ประการ. พิมพ์ครั้งที่ ๘
กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระภาวนาวิริยะคุณ. (กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ก). “ปฏิรูปเทศ ๔ สูตรสำเร็จการบริหารวัด”
จดหมายข่าวสหธรรมิก สื่อสารเพื่อการคณะสงฆ์. ๖(๖๘) : ๔,๖-๑๑.
พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ. (๒๕๔๖). มงคลชีวิต ฉบับ “ทางก้าวหน้า”. กรุงเทพมหานคร
: รุ่งศิลป์การพิมพ์.
พลสัณห์ โพธิ์ศรีทอง. (๒๕๓๙). “การนำพระสงฆ์ (วัด) มาเป็นหลักในการแก้ปัญหา
ทางสังคมจิตวิทยาของเยาวชนไทยในยุคโลกาภิวัตน์” ใน หลักการบริหารและ
การจัดการวัดในยุคโลกาภิวัตน์. หน้า ๑๙๗. กรุงเทพมหานคร :
สำนักงานสภาสถาบันราชภัฏ.
สุพัฒน์ มนัสไพบูลย์ และคณะ. (๒๕๓๙). “สาระสำคัญของหลักสูตรการบริหารและ
การจัดการวัด” ใน หลักการบริหารและการจัดการวัดในยุคโลกาภิวัตน์.
หน้า ๖-๙. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานเลขาธิการสภาสถาบันราชภัฏ.